VDO งาน Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 นิตยสารแชมเปี้ยนชิพ
การแข่งขันมอเตอร์ไซค์ Stunt ชิงแชมป์ประเทศไทย รายการ Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 (MMG 2014) งานในปีนี้ถูกจัดขึ้นได้โดยการจับมือกันระหว่างทีมงานนิตยสารแชมเปี้ยนชิพ, บริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, นิตยสารมอเตอร์ไซค์ และงาน Motor Show 2014 การแข่งขันจัดขึ้นที่งาน Bangkok International Motor Show 2014 บริเวณลานโหลดดิ้งอาคารชาเลนเจอร์ 1 เพราะว่างาน MMG 2014 ถูกจัดขึ้นในงานระดับโลกอย่าง งาน Bangkok Interbational Motor Show นี่เอง ทำให้งานแข่งมอเตอร์ไซค์ Stunt ในครั้งนี้กลายเป็นงานแข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยอดผู้เข้าชม การเผยแพร่ข่าวสาร อาทิ ทาง TV, นิตยสาร, เว็ปไซต์ ฯ ก็ตาม นอกจากนี้ การแข่งขันรายการ Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 ยังเป็นงานแข่งมอเตอร์ไซค์ Stunt รายการเดียวในประเทศไทย ที่มีการจัดมาอย่างต่อเนื่องทุกปียาวนานถึง 5 ปีแล้ว สิ่งนี้จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้การแข่งขันรายการนี้ได้รับความสนใจจากนักแข่งมากมายเป็นพิเศษ
เกมการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ Stunt รายการ MMG 2014 ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 ซึ่งในปีนี้มีการปรับรุ่นการแข่งขันใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยและการพัฒนาของนักแข่ง Stunt ไทยมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีการแบ่งการขันขันออกเป็น 4 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือรุ่น 1.FreeStyle มือใหม่ 2.Stoppie 3.FreeStyle Pro และ 4.Big Bike
การแข่งขันรุ่น FreeStyle มือใหม่ เริ่มต้นแข่งขันเป็นรุ่นแรกของวันนี้ สำหรับการแข่งขันในรุ่นนี้เป็นการเปิดโอกาสให้นักขี่ Stunt หน้าใหม่ที่ยังมีสกิลการขับขี่ไม่สูงมากนักร่วมสนุกลงแข่งขันเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเตรียมตัวที่จะขึ้นสู่รุ่น Pro ต่อไปในอนาคต ผู้ที่ลงทำการแข่งขันรุ่นนี้จะสามารถเล่นท่าได้ทุกสไตล์ โดยกรรมการจะดูความยากง่ายของท่า, ความสมบูรณ์ในการเล่นท่า และการเอนเตอร์เทนผู้ชมมาเป็นเกณฑ์ในการให้คะแนน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักแข่ง Stunt มือใหม่ทั่วประเทศกว่า 30 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งจากทีม Jokerunit, TSR, KD, จ๊าบ Rider, วิจัยฝุ่น, Free rider, Signature Stunt, 101, Heaventown Ride, นครสวรรค์, Belt Stunter, บางใหญ่ ฯ ซึ่งสุดท้าย ธนภูมิ อันปรังกานันท์ นักแข่งจากทีม 101 Rider สามารถทำคะแนนนำโด่งอยู่ในอันดับ 1 ที่ 26 คะแนน ส่วนอันดับ 2 นั้นตกเป็นของ วิทยา เพ็ชรรักษ์ ทีมบางใหญ่ คะแนนที่ได้อยู่ที่ 21.5 คะแนน ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ นาวิน นิท้าน นักแข่งจากทีม 101 Rider อีกเช่นกัน ทำคะแนนได้ 20 คะแนน
การแข่งขันในรุ่นต่อไปคือการแข่งขันรุ่น Stoppie อย่างที่รู้กันว่าการเล่น Stunt สไตล์ Stoppie คือการเล่นท่าต่างๆ ขณะที่ยกล้อหลัง ทว่าการแข่งขันในรุ่นนี้จะไม่ได้ตัดสินกันที่การโชว์เล่นท่าต่างๆ ภายในเวลาที่กำหนดแล้วก็เก็บคะแนนแบบการแข่งขันรุ่นอื่นๆ แต่การแข่งขันในรุ่น Stoppie นี้ จะตัดสินกันตรงที่ว่าใครจะเป็นผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ยกล้อหลังไปได้ไกลที่สุดต่างหาก คือ นักแข่งจะต้องออกตัวจากจุดสตาร์ทจากนั้นก็เริ่มยกล้อหลังตามจุดที่คณะกรรมการกำหนด หากมีนักแข่งคนใดทำการ Stoppie ช้า หรือเกินจุดที่กำหนดไว้ จะถือว่าออกสตาร์ทฟาล์วซึ่งจะมีผลให้เสียการวิ่งในครั้งนั้นไปในทันที นักแข่งทุกท่านจะมีโอกาสทำการ Stoppie ได้ท่านละ 2 ครั้ง ผู้ใดสามารถยกล้อหลังได้ไกลที่สุดก็จะเป็นผู้ที่ได้รับชัยชนะในรุ่นนี้ไป จะอย่างไรก็ดี การเล่นท่าสาย Stoppie ถือว่าเป็นสไตล์การเล่นที่เจ็บตัวมากที่สุด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น นักแข่งเกิดทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านหน้ามากเกินไป ก็จะทำให้ล้มแบบหน้าทิ่มลงไปด้านหน้าได้ การล้มเช่นนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เหวอมากๆ ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อล้มไปด้านหน้าแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ยังมีโอกาสล้มตามมาทับผู้ขับขี่ได้อีก... ซึ่งในที่สุดอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นในการแข่งขันจนได้ เมื่อนักกีฬาแต่ละคนล้วนมุ่งหวังที่จะนำพารถของตัวเองยกล้อหลังไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ นายซัดดำ ก็พยายามจะทำเช่นกัน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุล้มแบบหน้าทิ่มขึ้น อีกทั้งรถมอเตอร์ไซค์ยังม้วนตามลงมาทับขาของเขาอีก ทำให้นายซัดดำเดินอาการบาดเจ็บที่ขาจนไม่สามารถทำการแข่งขันต่อไปได้ และในที่สุดเมื่อการแข่งขันในรุ่นนี้สิ้นสุดลง ผู้ที่สามารถ Stoppie ไปได้ไกลที่สุดก็คือ นายภุชงค์ อภิวัฒน์ (พ่อชอบ) นักแข่งจากทีม Star Bike ผู้มีชื่อเสียงด้านการเล่นสาย Stoppie มาแต่ช้านาน ส่วนอันดับ 2 นั้นตกเป็นของ นายชนาพัฒน์ ยวงหิรัญ นักแข่งจากทีมบางใหญ่ และอันดับ 3 ตกเป็นของ ชายเนส นักแข่งจากทีมวิจัยฝุ่น แชมป์เก่ารุ่น FreeStyle Pro เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
การแข่งขันรุ่น FreeStyle Pro เริ่มต้นขึ้นในช่วงเย็นต่อจากรุ่น Stoppie โดยการแข่งขันในรุ่นนี้จะใช้กติกาการแข่งขันและการตัดสินเหมือนกับการแข่งขันในรุ่น FreeStyle มือใหม่ แต่จะต่างกันก็ตรงที่การแข่งขันในรุ่น Pro นี้ จะมีแต่นักแข่งที่มีฝีมือและชื่อเสียงในวงการมอเตอร์ไซค์ Stunt ระดับประเทศทั้งนั้น ดังนั้น การแข่งขันในรุ่นนี้จึงขับเคี่ยวกันสนุกและดุเดือดกว่าทุกๆ รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งในที่สุดผู้ที่สามารถทำคะแนนมาได้เป็นอันดับ 1 ของรุ่นนี้ก็คือ ชายเนส นักแข่งจากทีมวิจัยฝุ่น ที่สามารถทำคะแนนได้ที่ 27 คะแนน ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของบริวัฒน์ ชัยสวัสดิ์ สามารถทำคะแนนเฉือนอันดับที่ 3 มาได้ที่ 22 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ผู้ที่มีคะแนน 21.5 คะแนน คือ นายอานนท์ หงษ์กลาง
ปิดท้ายรายการ Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 ด้วยการแข่งขันรุ่น Big Bike ที่เปิดให้นักแข่ง Stunt ที่ขับขี่รถที่มีขนาดเกิน 250 ซีซี ขึ้นไปลงชิงชัยกัน ในรุ่นนี้ต้องถือว่าเป็นการแข่งขันสำหรับนักแข่งที่มีฝีมือระดับสุดยอดของประเทศไทยแล้ว เพราะก่อนที่นักแข่งแต่ละคนจะไต่เต้ามาลงการแข่งขันในรุ่นนี้ได้ จะต้องมีประสบการณ์การขับขี่และแข่งขันในรถรุ่นเล็กมาก่อน ดังนั้น ผู้ที่ได้ตำแหน่งอันดับ 1 ในรุ่น Big Bike ในงานนี้ ก็จะกลายเป็นแชมป์คนล่าสุดของประเทศไปในทันที ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา ของการจัดงานแข่งมอเตอร์ไซค์ Stunt จะเห็นได้ว่า มีจำนวนผู้สมัครลงแข่งขันในรุ่น Big Bike มากขึ้นทุกปี นั่นหมายความว่าปัจจุบันมีนักกีฬามอเตอร์ไซค์ Stunt พัฒนาฝีมือขึ้นมาอยู่ในรุ่นนี้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับสะท้อนไปถึงเรื่องตลาดรถมอเตอร์ไซค์อีกด้วยเช่นกัน ว่าตลาดรถ Big Bike กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้มีนักกีฬาลงแข่งขันในรุ่น Big Bike กว่า 10 ท่านด้วยกัน แต่ละคนล้วนมาจากทีม Stunt ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นทีมวิจัยฝุ่น, Star Bike, Thailand Stunt Rider, จ๊าบ Rider ฯ และยังมีแชมป์เก่าอีกหลายต่อหลายคนที่ลงแข่งขันในรุ่น Big bike อาทิ รายเดชา ทะสอน หรือแขก จากทีม Thailand Stunt Rider แชมป์เก่าปี 2012, อนีส มีหิรัญ แชมป์รุ่น Big Bike เมื่อปีที่แล้ว และนักแข่งฝีมือระดับ Top ของประเทศอีกมากมาย การแข่งขันของรุ่น Big Bike แข่งขันกันท่ามกลางผู้ชมที่หนาแน่นคับคั่งและเสียงเชียร์ที่ดังลั่นของชาว Stunt และแฟนๆ แต่แล้วสิ่งเหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแชมป์เก่าปี 2012 อย่างแขก Thailand Stunt Rider สามารถทำคะแนนได้ในอันดับ 3 ที่คะแนน 23 คะแนน ส่วนแชมป์เก่าปีที่แล้วอย่างนีส Thailand Stunt Rider ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดหมายขึ้น เมื่อรถ KAWASAKI Ninja 250 ของเขาเกิดมีปัญหาขึ้นหลังจากที่ทำการแข่งขันไปได้อีก 3 นาทีเศษๆ (เวลาแข่งขันทั้งหมด 5 นาที) ทำให้เขาไม่สามารถใช้รถของตัวเองทำการแข่งขันต่อไปได้ เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน นีสจึงมีคะแนนอยู่ที่ 23.5 คะแนน เฉือนชนะแขกมาได้เพียง 0.5 คะแนนเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอที่คว้าแชมป์ของรายการนี้ เมื่อต้องเจอกับม้ามืดอย่าง พชรพล เสลา ที่สามารถโชว์ท่ายากได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีสไตล์การขับขี่ที่ไม่ซ้ำใคร เขาสามารถทำคะแนนได้ที่ 24.5 คะแนน และก็ทำให้ พชรพล กลายเป็นแชมป์คนล่าสุดของงาน Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 ไปในที่สุด
เพื่อนๆ สามารถชมการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ Stunt ชิงแชมป์ประเทศไทยในรูปแบบ VDO ได้ที่ http://www.youtube.com แล้วเข้าไปที่ช่อง "Aon Yokee" หรือจะค้นหาคำว่า "Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 นิตยสารแชมเปี้ยนชิพ" ก็ได้เช่นกัน
สรุปผลการแข่งขัน
รุ่น FreeStyle มือใหม่
1. ธนภูมิ อันปรังกานันท์ ทีม 101 Rider 26 คะแนน
2. วิทยา เพ็ชรรักษ์ ทีมบางใหญ่ 21.5 คะแนน
3. นาวิน นิท้าน ทีม 101 Rider 20 คะแนน
รุ่น Stoppie
1. นายภุชงค์ อภิวัฒน์ ทีม Star Bike
2. นายชนาพัฒน์ ยวงหิรัญ ทีมบางใหญ่
3. ชายเนส ทีมวิจัยฝุ่น
รุ่น FreeStyle Pro
1. ชายเนส ทีมวิจัยฝุ่น 27 คะแนน
2. บริวัฒน์ ชัยสวัสดิ์ ทีม Belt Stunter 22 คะแนน
3 นายอานนท์ หงษ์กลาง ทีม Free Ride 21.5 คะแนน
รุ่น Big Bike
1. พชรพล เสลา ทีม จ๊าบ Rider 24.5 คะแนน
2. อนีส มีหิรัญ ทีม Thailand Stunt Rider 23.5 คะแนน
3 เดชา ทะสอน ทีม Thailand Stunt Rider 23 คะแนน
เกมการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ Stunt รายการ MMG 2014 ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2557 ซึ่งในปีนี้มีการปรับรุ่นการแข่งขันใหม่ให้เข้ากับยุคสมัยและการพัฒนาของนักแข่ง Stunt ไทยมากยิ่งขึ้น จึงทำให้มีการแบ่งการขันขันออกเป็น 4 รุ่นด้วยกัน นั่นก็คือรุ่น 1.FreeStyle มือใหม่ 2.Stoppie 3.FreeStyle Pro และ 4.Big Bike
การแข่งขันรุ่น FreeStyle มือใหม่ เริ่มต้นแข่งขันเป็นรุ่นแรกของวันนี้ สำหรับการแข่งขันในรุ่นนี้เป็นการเปิดโอกาสให้นักขี่ Stunt หน้าใหม่ที่ยังมีสกิลการขับขี่ไม่สูงมากนักร่วมสนุกลงแข่งขันเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเตรียมตัวที่จะขึ้นสู่รุ่น Pro ต่อไปในอนาคต ผู้ที่ลงทำการแข่งขันรุ่นนี้จะสามารถเล่นท่าได้ทุกสไตล์ โดยกรรมการจะดูความยากง่ายของท่า, ความสมบูรณ์ในการเล่นท่า และการเอนเตอร์เทนผู้ชมมาเป็นเกณฑ์ในการให้คะแนน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักแข่ง Stunt มือใหม่ทั่วประเทศกว่า 30 ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นนักแข่งจากทีม Jokerunit, TSR, KD, จ๊าบ Rider, วิจัยฝุ่น, Free rider, Signature Stunt, 101, Heaventown Ride, นครสวรรค์, Belt Stunter, บางใหญ่ ฯ ซึ่งสุดท้าย ธนภูมิ อันปรังกานันท์ นักแข่งจากทีม 101 Rider สามารถทำคะแนนนำโด่งอยู่ในอันดับ 1 ที่ 26 คะแนน ส่วนอันดับ 2 นั้นตกเป็นของ วิทยา เพ็ชรรักษ์ ทีมบางใหญ่ คะแนนที่ได้อยู่ที่ 21.5 คะแนน ส่วนอันดับที่ 3 เป็นของ นาวิน นิท้าน นักแข่งจากทีม 101 Rider อีกเช่นกัน ทำคะแนนได้ 20 คะแนน
การแข่งขันในรุ่นต่อไปคือการแข่งขันรุ่น Stoppie อย่างที่รู้กันว่าการเล่น Stunt สไตล์ Stoppie คือการเล่นท่าต่างๆ ขณะที่ยกล้อหลัง ทว่าการแข่งขันในรุ่นนี้จะไม่ได้ตัดสินกันที่การโชว์เล่นท่าต่างๆ ภายในเวลาที่กำหนดแล้วก็เก็บคะแนนแบบการแข่งขันรุ่นอื่นๆ แต่การแข่งขันในรุ่น Stoppie นี้ จะตัดสินกันตรงที่ว่าใครจะเป็นผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ยกล้อหลังไปได้ไกลที่สุดต่างหาก คือ นักแข่งจะต้องออกตัวจากจุดสตาร์ทจากนั้นก็เริ่มยกล้อหลังตามจุดที่คณะกรรมการกำหนด หากมีนักแข่งคนใดทำการ Stoppie ช้า หรือเกินจุดที่กำหนดไว้ จะถือว่าออกสตาร์ทฟาล์วซึ่งจะมีผลให้เสียการวิ่งในครั้งนั้นไปในทันที นักแข่งทุกท่านจะมีโอกาสทำการ Stoppie ได้ท่านละ 2 ครั้ง ผู้ใดสามารถยกล้อหลังได้ไกลที่สุดก็จะเป็นผู้ที่ได้รับชัยชนะในรุ่นนี้ไป จะอย่างไรก็ดี การเล่นท่าสาย Stoppie ถือว่าเป็นสไตล์การเล่นที่เจ็บตัวมากที่สุด เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น นักแข่งเกิดทิ้งน้ำหนักตัวไปด้านหน้ามากเกินไป ก็จะทำให้ล้มแบบหน้าทิ่มลงไปด้านหน้าได้ การล้มเช่นนี้ถือว่าเป็นอะไรที่เหวอมากๆ ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อล้มไปด้านหน้าแล้ว รถมอเตอร์ไซค์ยังมีโอกาสล้มตามมาทับผู้ขับขี่ได้อีก... ซึ่งในที่สุดอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นในการแข่งขันจนได้ เมื่อนักกีฬาแต่ละคนล้วนมุ่งหวังที่จะนำพารถของตัวเองยกล้อหลังไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ นายซัดดำ ก็พยายามจะทำเช่นกัน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุล้มแบบหน้าทิ่มขึ้น อีกทั้งรถมอเตอร์ไซค์ยังม้วนตามลงมาทับขาของเขาอีก ทำให้นายซัดดำเดินอาการบาดเจ็บที่ขาจนไม่สามารถทำการแข่งขันต่อไปได้ และในที่สุดเมื่อการแข่งขันในรุ่นนี้สิ้นสุดลง ผู้ที่สามารถ Stoppie ไปได้ไกลที่สุดก็คือ นายภุชงค์ อภิวัฒน์ (พ่อชอบ) นักแข่งจากทีม Star Bike ผู้มีชื่อเสียงด้านการเล่นสาย Stoppie มาแต่ช้านาน ส่วนอันดับ 2 นั้นตกเป็นของ นายชนาพัฒน์ ยวงหิรัญ นักแข่งจากทีมบางใหญ่ และอันดับ 3 ตกเป็นของ ชายเนส นักแข่งจากทีมวิจัยฝุ่น แชมป์เก่ารุ่น FreeStyle Pro เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
การแข่งขันรุ่น FreeStyle Pro เริ่มต้นขึ้นในช่วงเย็นต่อจากรุ่น Stoppie โดยการแข่งขันในรุ่นนี้จะใช้กติกาการแข่งขันและการตัดสินเหมือนกับการแข่งขันในรุ่น FreeStyle มือใหม่ แต่จะต่างกันก็ตรงที่การแข่งขันในรุ่น Pro นี้ จะมีแต่นักแข่งที่มีฝีมือและชื่อเสียงในวงการมอเตอร์ไซค์ Stunt ระดับประเทศทั้งนั้น ดังนั้น การแข่งขันในรุ่นนี้จึงขับเคี่ยวกันสนุกและดุเดือดกว่าทุกๆ รุ่นที่ผ่านมา ซึ่งในที่สุดผู้ที่สามารถทำคะแนนมาได้เป็นอันดับ 1 ของรุ่นนี้ก็คือ ชายเนส นักแข่งจากทีมวิจัยฝุ่น ที่สามารถทำคะแนนได้ที่ 27 คะแนน ส่วนอันดับ 2 ตกเป็นของบริวัฒน์ ชัยสวัสดิ์ สามารถทำคะแนนเฉือนอันดับที่ 3 มาได้ที่ 22 คะแนน ส่วนอันดับ 3 ผู้ที่มีคะแนน 21.5 คะแนน คือ นายอานนท์ หงษ์กลาง
ปิดท้ายรายการ Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 ด้วยการแข่งขันรุ่น Big Bike ที่เปิดให้นักแข่ง Stunt ที่ขับขี่รถที่มีขนาดเกิน 250 ซีซี ขึ้นไปลงชิงชัยกัน ในรุ่นนี้ต้องถือว่าเป็นการแข่งขันสำหรับนักแข่งที่มีฝีมือระดับสุดยอดของประเทศไทยแล้ว เพราะก่อนที่นักแข่งแต่ละคนจะไต่เต้ามาลงการแข่งขันในรุ่นนี้ได้ จะต้องมีประสบการณ์การขับขี่และแข่งขันในรถรุ่นเล็กมาก่อน ดังนั้น ผู้ที่ได้ตำแหน่งอันดับ 1 ในรุ่น Big Bike ในงานนี้ ก็จะกลายเป็นแชมป์คนล่าสุดของประเทศไปในทันที ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่ผ่านมา ของการจัดงานแข่งมอเตอร์ไซค์ Stunt จะเห็นได้ว่า มีจำนวนผู้สมัครลงแข่งขันในรุ่น Big Bike มากขึ้นทุกปี นั่นหมายความว่าปัจจุบันมีนักกีฬามอเตอร์ไซค์ Stunt พัฒนาฝีมือขึ้นมาอยู่ในรุ่นนี้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับสะท้อนไปถึงเรื่องตลาดรถมอเตอร์ไซค์อีกด้วยเช่นกัน ว่าตลาดรถ Big Bike กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้มีนักกีฬาลงแข่งขันในรุ่น Big Bike กว่า 10 ท่านด้วยกัน แต่ละคนล้วนมาจากทีม Stunt ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นทีมวิจัยฝุ่น, Star Bike, Thailand Stunt Rider, จ๊าบ Rider ฯ และยังมีแชมป์เก่าอีกหลายต่อหลายคนที่ลงแข่งขันในรุ่น Big bike อาทิ รายเดชา ทะสอน หรือแขก จากทีม Thailand Stunt Rider แชมป์เก่าปี 2012, อนีส มีหิรัญ แชมป์รุ่น Big Bike เมื่อปีที่แล้ว และนักแข่งฝีมือระดับ Top ของประเทศอีกมากมาย การแข่งขันของรุ่น Big Bike แข่งขันกันท่ามกลางผู้ชมที่หนาแน่นคับคั่งและเสียงเชียร์ที่ดังลั่นของชาว Stunt และแฟนๆ แต่แล้วสิ่งเหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อแชมป์เก่าปี 2012 อย่างแขก Thailand Stunt Rider สามารถทำคะแนนได้ในอันดับ 3 ที่คะแนน 23 คะแนน ส่วนแชมป์เก่าปีที่แล้วอย่างนีส Thailand Stunt Rider ก็เกิดเรื่องที่ไม่คาดหมายขึ้น เมื่อรถ KAWASAKI Ninja 250 ของเขาเกิดมีปัญหาขึ้นหลังจากที่ทำการแข่งขันไปได้อีก 3 นาทีเศษๆ (เวลาแข่งขันทั้งหมด 5 นาที) ทำให้เขาไม่สามารถใช้รถของตัวเองทำการแข่งขันต่อไปได้ เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน นีสจึงมีคะแนนอยู่ที่ 23.5 คะแนน เฉือนชนะแขกมาได้เพียง 0.5 คะแนนเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่เพียงพอที่คว้าแชมป์ของรายการนี้ เมื่อต้องเจอกับม้ามืดอย่าง พชรพล เสลา ที่สามารถโชว์ท่ายากได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังมีสไตล์การขับขี่ที่ไม่ซ้ำใคร เขาสามารถทำคะแนนได้ที่ 24.5 คะแนน และก็ทำให้ พชรพล กลายเป็นแชมป์คนล่าสุดของงาน Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 ไปในที่สุด
เพื่อนๆ สามารถชมการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ Stunt ชิงแชมป์ประเทศไทยในรูปแบบ VDO ได้ที่ http://www.youtube.com แล้วเข้าไปที่ช่อง "Aon Yokee" หรือจะค้นหาคำว่า "Motor Show Motor Stunt Grand Prix 2014 นิตยสารแชมเปี้ยนชิพ" ก็ได้เช่นกัน
สรุปผลการแข่งขัน
รุ่น FreeStyle มือใหม่
1. ธนภูมิ อันปรังกานันท์ ทีม 101 Rider 26 คะแนน
2. วิทยา เพ็ชรรักษ์ ทีมบางใหญ่ 21.5 คะแนน
3. นาวิน นิท้าน ทีม 101 Rider 20 คะแนน
รุ่น Stoppie
1. นายภุชงค์ อภิวัฒน์ ทีม Star Bike
2. นายชนาพัฒน์ ยวงหิรัญ ทีมบางใหญ่
3. ชายเนส ทีมวิจัยฝุ่น
รุ่น FreeStyle Pro
1. ชายเนส ทีมวิจัยฝุ่น 27 คะแนน
2. บริวัฒน์ ชัยสวัสดิ์ ทีม Belt Stunter 22 คะแนน
3 นายอานนท์ หงษ์กลาง ทีม Free Ride 21.5 คะแนน
รุ่น Big Bike
1. พชรพล เสลา ทีม จ๊าบ Rider 24.5 คะแนน
2. อนีส มีหิรัญ ทีม Thailand Stunt Rider 23.5 คะแนน
3 เดชา ทะสอน ทีม Thailand Stunt Rider 23 คะแนน
