รับทราบกันถ้วนหน้าแล้วกับการที่เมืองไทยได้มีสนามแข่งระดับโลกที่พึ่งจะเสร็จไปหมาดๆ และกลายเป็นสิ่งที่หลายคนอยากจะลงไปสัมผัสกับสนามแข่งระดับโลกแห่งนี้ สนามแข่ง ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และในฐานะของผู้สนับสนุนสนามฮอนด้าจึงได้เปิดโอกาสให้กับสื่อมวลชนได้ลงมาสัมผัสถึงความเป็นมาตรฐานของสนามแบบทุกซอกทุกมุมและทำให้มองเห็นถึงบรรยากาศของสนามแข่งในความเป็นมาตรฐานสากล และวันนี้สื่อมวลชนก็จะได้ลงไปสัมผัสกับสนามแข่งด้วยรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ตั้งแต่รุ่น CBR300, CBR500, CB500F และ CBR650F รถจักรยานยนต์ที่มีสมรรถนะเป็นที่ยอมรับก็จะถูกนำมาขับขี่ในสนามแข่งนี้ด้วยเช่นกัน
การเดินทางไปสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ได้มีกำหนดที่จะให้สื่อมวลชนได้ลงไปสัมผัสสนามกันในวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่าน ตามโปรแกรมแล้วก็คือจะได้เดินชมความพร้อมของสนาม ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กันแบบทุกซอกทุกมุม รวมทั้งห้องสื่อมวลชนที่เราจะได้มีโอกาสมาทำงานกันที่มีโปรแกรมการแข่งขันเกิดขึ้น ห้องนี้จะเป็นแหล่งรวมข้อมูลที่สื่อมวลชนจำเป็นที่จะต้องเอาข้อมูลต่างๆ ไปเผยแพร่ถึงเรื่องราวของการแข่งไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่จะเป็นการเผยแพร่ข่าวสารไปยังทั่วโลก ห้องนี้มีความพร้อมสำหรับการทำงานของสื่อมวลชน นอกจากนั้นสื่อมวลชนยังได้เดินขึ้นไปดูวิวด้านบนของสนามที่ขึ้นชื่อว่าสนามมองเห็นสนามได้ทุกโค้ง ทำให้ผู้ชมสามารถติดตามชมการแข่งขันกันได้ตลอดเกมการแข่งขัน สนามแห่งนี้มีความยาว 4.554 กม. เป็นแทร็คมาตรฐาน FIA Grade 1 และ FIM Grade A การได้มาชมสนามจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับชาวไทยจริงๆ ฮอนด้าเองได้มองเห็นความสำคัญและได้เชิญสื่อมวลชนมาร่วมสัมผัสกับความยิ่งใหญ่ของสนามแห่งนี้ ไม่เพียงแค่การมาเดินดูความพร้อมอย่างเดียวเท่านั้น ฮอนด้ายังได้มีการเตรียมรถสำหรับทดสอบเอาไว้ให้สื่อมวลชนด้วย โดยการขับขี่จะมีครูฝึกเซฟตี้นำไลน์ให้เพื่อทำความคุ้นเคยกับสนามแข่งแห่งนี้ ช่วงการขับขี่ของเราเป็นช่วงเย็นแล้วแต่ว่าสนามก็มีการเตรียมพร้อมในเรื่องของแสงสว่างได้เพียงพอกับการมองเห็นไลน์ในสนาม การขับขี่รถบิ๊กไบค์ของฮอนด้าทำให้รับรู้ได้ว่าสมรรถนะของตัวรถสามารถรีดความเป็นฮอนด้าได้ออกมาเต็มที่ ถึงแม้จะมีรถหลากหลายรุ่นมาลงขับขี่ในสนาม แต่ทุกรุ่นก็เค้นความสนุกออกมาได้หมดทำให้นักทดสอบแต่ละคนสามารถปรับตัวเข้าหาสนามได้ย่างรวดเร็ว ช่วงทางตรงเมื่อหลุดมาจากโค้งแรกรถสามารถทำความเร็วได้เต็มที่ก่อนที่ผ่านเข้าโค้ง 2 ซึ่งเป็นโค้งยูเทิร์นแล้วยิงตรงยาวๆ ออกมาอีกครั้งตรงนี้รถสามารถทำความเร็วได้เต็มที่ ก่อนที่จะยกคันเร่งนิดนึงเพื่อเข้าโค้งที่ 3 โดยไม่ต้องเบรกแล้วสามารถเดินคันเร่งต่อได้เลยเพื่อมุ่งไปโค้ง 4 ที่เป็นโค้งซ้ายต้องเชนจ์เกียร์ลงเพื่อลดความเร็ว ตรงนี้สามารถเดินเข้าไลน์ต่อไปยังโค้ง 5 ที่เป็นโค้งซ้ายเหมือนกันได้ทันทีแล้วตรงนี้ต้องพลิกรถเพื่อเข้าโค้งขวาที่สามารถต่อเกียร์ออกไปจากโค้งได้อีกที การเข้าโค้งที่ 7 ที่เป็นโค้งขวาอาจจะต้องระวังนิดนึงเพราะว่าเมื่อเดินเครื่องยนต์ไปแล้วก็จะเป็นโค้งขวาอีกเหมือนกันแล้วต่อด้วยโค้ง S ถ้าตรงนี้เดินคันเร่งมาแรงอาจจะทำให้หลุดออกจากโค้งได้ทันที แต่เมื่อผ่านไปได้ให้เดินคันเร่งยาวๆ เพื่อเข้าสู่โค้งสุดท้าย ตรงนี้ยากเหมือนกันเพราะว่าเป็นโค้งหักซอกจากการเดินคันเร่งมาเต็มๆ แล้วต้องมาชะลอความเร็วเพื่อพลิกเข้าโค้งหักซอกขวาแล้วถึงเดินคันเร่งในช่วงผ่านหน้าสแตนได้อีกครั้ง โดยรวมแล้วรูปแบบของสนามมีหลายโค้งที่นักแข่งจะต้องใช้ความสามารถกันพอสมควร ถ้าลองไปขี่จริงๆ แล้วก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดแต่นั้นคือความสนุกที่มีครบทุกรสชาติของสนามแห่งนี้ รถของฮอนด้าเองก็พิสูจน์ถึงสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมไปพร้อมกับสนามที่ดีเลิศได้เช่นกัน
รถทุกคันของฮอนด้ารองรับกับสนามทำให้การขับขี่สนุกและได้เห็นถึงความท้าทายของสนามแห่งนี้ไปพร้อมๆ กัน รถที่เตรียมมาก็พอดีกับชุดทดสอบที่ได้ลงไปร่วมทำการขับขี่ ทุกคนจะต้องใช้ทักษะการขับขี่กันอย่างเต็มที่ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ทุกคนก็อยากที่จะค้นหาความสนุกและความตื่นเต้นกันอย่างเต็มที่ ที่ได้มีโอกาสลงมาขับขี่ในสนามระดับ
โลกแบบนี้ หลังจากสื่อที่มวลชนได้ทดสอบสนามกันเป็นที่เรียบร้อยก็ถึงคิวของแฟนคลับบิ๊กไบค์ของฮอนด้าที่จะได้ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในครั้งนี้ การขับขี่ก็จะเป็นเช่นเดียวกับของสื่อมวลชน ซึ่งก็เชื่อว่าทุกคนที่ได้มาสัมผัสสนามแห่งนี้จะต้องประทับใจจนต้องกลับไปบอกเล่าให้กับชาวบิ๊กไบค์ได้รับทราบกันต่อไป งานนี้ก็ต้องขอบคุณฮอนด้าด้วยที่ได้เปิดประสบการณ์ครั้งใหม่ให้กับสื่อมวลชนและชาวบิ๊กไบค์ในครั้งนี้
